การวางแผนการยก (Lifting Plan) คืออะไร | กฎหมายกำหนดอะไรบ้าง

by pam
26 views

การวางแผนการยก (Lifting Plan) เป็นขั้นตอนสำคัญที่ใช้ในกระบวนการยกวัสดุหรือสิ่งของด้วยเครนหรือปั้นจั่น โดยมุ่งเน้นการประเมินและคำนวณอย่างถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่าการปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ การทำแผนการยกอย่างเป็นขั้นเป็นตอนตามที่กำหนดในกฎกระทรวงเรื่องการจัดการความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่นและเครื่องจักรอื่นๆ สามารถช่วยให้กระบวนการยกดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของการวางแผนการยก

การยกวัสดุด้วยเครนหรือปั้นจั่นเป็นงานที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุสูง หากไม่มีการวางแผนและควบคุมที่ดี การใช้เครนหรือปั้นจั่นอย่างไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ทั้งการล้มของเครน สิ่งของตกหล่น หรือแม้แต่การสัมผัสกับสายไฟฟ้าแรงสูง การวางแผนการยกช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวโดยการประเมินและจัดทำขั้นตอนการยกอย่างละเอียด

ซึ่งมีข้อกำหนดตามกฎหมายที่ระบุใน กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ.2564 ข้อ 84 นายจ้างต้องจัดทำแผนการยกสำหรับการทำงานที่มีลักษณะพิเศษ เช่น

  • ใช้เครนสองเครื่องขึ้นไปในการยก
  • การยกวัสดุที่มีน้ำหนักมากกว่าร้อยละ 75 ของพิกัดยกที่ปลอดภัย
  • การยกใกล้สายไฟฟ้า
  • การยกวัสดุที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงจุดศูนย์ถ่วง
  • การยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากกว่า 25 ตัน

ส่วนประกอบของแผนการยก มีอะไรบ้าง

แผนการยกต้องจัดทำโดยผู้ควบคุมการใช้เครน ที่ผ่านการอบรมเครน อย่างถูกต้อง และต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจนตาม ข้อ 85 ของกฎกระทรวง ได้แก่:

  1. รายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานเครน เช่น ผู้ควบคุมเครน ผู้สั่งการยก และคนงานที่รับผิดชอบการยึดอุปกรณ์ยก
  2. ตารางการยกที่ระบุความสามารถในการยกของเครนในแต่ละรัศมีและความสูง
  3. รายละเอียดของเครน เช่น รัศมีการยก ความยาวบูมที่ใช้
  4. รายละเอียดของอุปกรณ์ประกอบการยก เช่น สลิง ตะขอ และอุปกรณ์ช่วยยกอื่นๆ
  5. ข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุที่ทำการยก เช่น ขนาด น้ำหนัก และจุดศูนย์ถ่วง
  6. ความสามารถในการรับน้ำหนักของพื้นรองรับเครน
  7. ขนาดพื้นที่ของแผ่นรองขารองรับน้ำหนักเครน
  8. ขั้นตอนการยกพร้อมมาตรการความปลอดภัย

วิธีคำนวณน้ำหนักที่เครนสามารถยกได้

วิธีคำนวณน้ำหนักที่เครนสามารถยกได้

หนึ่งในข้อมูลที่ใช้ในการทำ วางแผนการยก (Lifting Plan)  ต้องคำนวณน้ำหนักที่เครนสามารถยกได้ ซึ่งขั้นตอนสำคัญที่ต้องทำเพื่อความปลอดภัย การคำนวณนี้ประกอบไปด้วยหลายขั้นตอนที่ต้องใช้ข้อมูลจากตารางน้ำหนัก รวมถึงการวิเคราะห์ระยะการยก ความสูง และความยาวบูม ดังนี้:

1. การคำนวณหาระยะยก B (Working Radius)

ระยะยก หรือ Working Radius แทนตัวย่อ B คือ ระยะที่วัดจากจุดศูนย์กลางของเครนไปยังจุดที่วางชิ้นงาน ระยะนี้เป็นปัจจัยสำคัญในการคำนวณขีดจำกัดน้ำหนักที่เครนสามารถยกได้ โดยเมื่อระยะยกเพิ่มขึ้น น้ำหนักที่เครนสามารถยกได้จะลดลง ผู้ใช้งานเครนจึงต้องมีความแม่นยำในการวัดและกำหนดระยะยก เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานเครนและบูมในลักษณะที่เหมาะสม

วิธีการคำนวณระยะยกสามารถทำได้โดยการวัดจากจุดศูนย์กลางของเอวสวิงของเครน (Base of crane) ไปยังจุดที่วางชิ้นงาน วิธีการนี้จำเป็นต้องแม่นยำเพราะเป็นข้อมูลพื้นฐานในการอ่านค่าจากตารางน้ำหนัก

2. การคำนวณหาระยะความสูง H (Lifting Height)

หลังจากได้ระยะยกแล้ว ขั้นตอนถัดมาคือการคำนวณ ระยะความสูง แทนตัวย่อ H ซึ่งคือระยะทางจากพื้นดินไปยังตำแหน่งที่วางชิ้นงาน โดยต้องคำนวณรวมถึงความสูงของชิ้นงาน ความสูงของอุปกรณ์ช่วยยก (เช่น สลิงหรือโซ่) และเผื่อระยะที่จำเป็นเพื่อความปลอดภัย โดยคำนวณตามสูตร:

    • ระยะความสูง = ความสูงที่จุดวาง + ความสูงชิ้นงานและอุปกรณ์ช่วยยก + ระยะเผื่อ

ตัวเลขระยะความสูงนี้จะช่วยให้เราสามารถเลือกใช้บูมที่มีความยาวที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถยกชิ้นงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

3. การคำนวณหาระยะความยาวบูม A (Boom Length)

ความยาวบูม (Boom Length) แทนตัวย่อ A เป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการยกชิ้นงาน ความยาวของบูมจะส่งผลต่อความสามารถในการยกน้ำหนักของเครน โดยเมื่อความยาวของบูมเพิ่มขึ้น น้ำหนักที่เครนสามารถยกได้จะลดลง ผู้ใช้งานเครนจึงต้องคำนวณความยาวบูมที่เหมาะสมตามระยะยกและความสูงที่ได้จากขั้นตอนก่อนหน้า

การคำนวณความยาวบูมสามารถทำได้โดยการทำเครื่องหมายตามระยะการทำงาน (Working Radius) และระยะความสูง (Lifting Height) บนตารางน้ำหนัก จากนั้นลากเส้นที่ผ่านทั้งสองจุดนี้ เพื่อตรวจสอบความยาวบูมที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถอ่านค่าพิกัดการยกจากตารางน้ำหนักได้อย่างถูกต้อง

4. การอ่านตารางน้ำหนัก (Loading Chart)

เมื่อได้ค่าความยาวบูมที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการอ่านค่าจาก ตารางน้ำหนัก (Loading Chart) โดยในตารางนี้จะมีข้อมูลที่แสดงถึงน้ำหนักสูงสุดที่เครนสามารถยกได้ในแต่ละระยะของบูม ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดขีดจำกัดของการยกในสถานการณ์ต่าง ๆ และป้องกันการยกน้ำหนักเกินขีดจำกัดของเครน

การอ่านตารางน้ำหนัก (Loading Chart)

5. การคำนวณน้ำหนักที่เครนสามารถยกได้ทั้งหมด

ขั้นตอนสุดท้ายคือการคำนวณน้ำหนักทั้งหมดที่เครนสามารถยกได้ โดยนอกจากน้ำหนักของชิ้นงานแล้ว ผู้ใช้งานยังต้องคำนวณน้ำหนักของอุปกรณ์ช่วยยก เช่น สลิง ตะขอเครน และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ในการยก ซึ่งต้องคำนวณรวมเข้าไปในน้ำหนักทั้งหมดที่เครนต้องรับ

    • น้ำหนักที่เครนสามารถยกได้ = น้ำหนักชิ้นงาน + น้ำหนักสลิงและตะขอเครน + น้ำหนักของอุปกรณ์ช่วยยก

6. อัตราส่วนของน้ำหนักที่ยกต่อความสามารถในการยก

เอาข้อมูลที่ได้มาคำนวนในสูตร  Capacity % = (น้ำหนักรวมทั้งหมด / น้ำหนักที่จะยกได้ตำมพิกัดปั้นจั่น ) x 100

การคำนวณนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าการยกจะอยู่ในขีดจำกัดของเครน และสามารถดำเนินงานได้อย่างปลอดภัย

มาตรการความปลอดภัยในการวางแผนการยก

มาตรการความปลอดภัยในการวางแผนการยก

การวางแผนการยกต้องควบคู่ไปกับมาตรการความปลอดภัยที่ชัดเจน ซึ่งรวมถึง:

  • ประเมินสถานที่: คำนึงถึงสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น สภาพพื้นดิน การวางตำแหน่งเครน และพื้นที่สำหรับการหมุนของบูม
  • ตรวจสอบเครน: ก่อนทำการยกต้องตรวจสอบเครน ว่าอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน รวมถึงการตรวจสอบสลิงและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ของเครน ช่างในการตรวจจะรู้ดีว่ารายการตรวจเครน ต้องปฏิบัติการตรวจอย่างไรบ้าง
  • สื่อสารระหว่างทีมงาน: ควรมีการกำหนดสัญญาณมือหรือวิธีการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างผู้ควบคุมเครน ผู้สั่งการยก และพนักงานที่เกี่ยวข้อง

สรุป

การวางแผนการยก (Lifting Plan) เป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการอย่างละเอียดและรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าการยกวัสดุหรือสิ่งของด้วยเครนจะดำเนินไปอย่างปลอดภัยและไม่มีอุบัติเหตุที่ไม่พึงประสงค์ การคำนวณที่ถูกต้องและการจัดทำแผนที่ครอบคลุมทุกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการยก ไม่ว่าจะเป็นระยะทำงาน ความยาวบูม หรือพิกัดการยก จะช่วยให้กระบวนการยกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยและการประเมินความเสี่ยงก่อนการยก เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในหน่วยงาน

You may also like

เลขที่ใบอนุญาต 0602-03-2565-0002

เลขที่ใบอนุญาต
0602-03-2565-0002

สำนักงาน

สระบุรี
ที่อยู่ 221/3 หมู่ 8 ตำบล ห้วยทราย อำเภอ หนองแค จังหวัด สระบุรี 18230
เลขภาษี 0-1955-60000-80-8 (สำนักงานใหญ่)

 

ปทุมธานี 
ที่อยู่ 98/16 หมู่ 18 ถนนเชียงราก ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120 (TU dome plaza ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต) ชั้น 3

 

ชลบุรี
เลขที่ 4/222 ชั้นที่ 12 อาคารฮาร์เบอร์ ออฟฟิศ หมู่ 10 ถ.สุขุมวิท ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20230

Copyright @2024   ตรวจสอบเครน Developed website and SEO by iPLANDIT